บาคาร่าออนไลน์ ยังต้องติดตาม ! น้ำท่วมเคหะ-นิคมบางพลี กลับสู่ภาวะปกติแล้ว

บาคาร่าออนไลน์ ยังต้องติดตาม ! น้ำท่วมเคหะ-นิคมบางพลี กลับสู่ภาวะปกติแล้ว

สถานการณ์น้ำท่วม เคหะบางพลี และนิคมอุตสาหกรรมบางพลี บาคาร่าออนไลน์ ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากที่เมื่อวานที่ผ่านมาถูกฝนถล่มอย่างหนักจนน้ำท่วมสูง ทำให้รถยนต์และจักรยานยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ 

อย่างไรก็ตามแต่ ทางเจ้าหน้าที่เผยว่า ยังคงต้องเร่งระบายน้ำในลำคลองเพื่อรองรับน้ำฝนที่อาจตกลงมาซ้ำ โดยวันนี้ช่วงเวลาบ่ายโมงที่ผ่านมา ก็เริ่มมีฝนตกลงมาแล้ว แต่ยังไม่แรงมากนัก ซึ่งยังคงต้องติดตามกันต่อไป

ถึงแม้เหตุการณ์น้ำท่วมจะกลับสู่ปกติแล้ว 

แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังเดินเครื่องสูบน้ำทุกเครื่องอย่างเต็มกำลัง เพื่อระบายน้ำในคลองให้ลดเหลือในระดับที่สามารถรองรับน้ำฝนได้หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก

ทั้งนี้นายปณวัตร โดเคน หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เทศบาลตำบลบางเสาธง เปิดเผยว่า ถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ทุกนายจะทำงานต่อเนื่องนานกว่า 24 ชั่วโมง และได้รับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำระยะไกลจาก อบจ. สมุทรปราการ มาสมทบ

แต่การทำงานได้ค่อนข้างช้าเพราะมีปริมาณขยะจำนวนมาก เข้าอุดตันทางเดินของน้ำ ทำให้น้ำไหลช้า และอุดตันที่เครื่องสูบน้จนำต้องมีการดับเครื่องเพื่อแยกขยะออกจากเครื่องสูบน้ำ จึงทำให้การทำงานช้าลงไปบ้าง ถึงแม้จะมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลคอยตักขยะตามลำคลองแล้วก็ตาม

แนะไม่ให้ลบหรือแก้ไขภาพสิตางค์ ส้มหยุด บนฝาผนังวัด จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Artytus By jarunnapat ได้ลงภาพวาดฝาผนัง ที่วัด หนองเต่า หลวงปู่ทิมดำทิมขาว จ.อุทัยธานี ซึ่งมีภาพของคุณแม่ สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอลชื่อดัง เจ้าของตำนานส้มหยุด โดยผู้โพสต์บอกว่าวาดด้วยเจตนาดี เพื่อบ่งบอกยุคสมัย ไม่ได้ต้องการลบหลู่ ต่อมาทางสำนักพุทธฯ ได้เข้าตรวจสอบและสั่งให้แก้ไขภาพเนื่องจากมองว่าไม่เหมาะสม

จริงๆ การที่สำนักพุทธฯ สั่งให้แก้ภาพ ‘สิตางศุ์ ส้มหยุด’ เป็นเรื่องซีเรียส และพวกเราไม่ควรปล่อยผ่านนะครับ เรื่องการดำเนินงานของสำนักพุทธฯ นี้ #เป็นเรื่องความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ข้าราชการใช้กรอบคิดอันจำกัดของตน #มากำหนดวัฒนธรรมหรือแบบแผนทางสังคม โดยไม่คำนึงถึงบริบทหรือตรรกะองค์ความรู้รอบด้าน เราจะปล่อยให้สำนักพุทธฯ ใช้ดุลพินิจด้านเดียวของตัวเองมาตัดสินได้อย่างไร

ผมมองว่า สำนักพุทธฯ กำลังจะเครมว่าตนเองคือ ‘ความถูกต้อง’ จริงๆ แล้วพระพุทธเจ้าเองก็ไม่ได้สอนให้ยึดติด และ ‘ภาพกาก’ ทำนองนี้เขาก็ทำมากันตั้งแต่โบราณ หากสมัยก่อนมีสำนักพุทธฯ ภาพจิตรกรรมฝาผนังคงถูกก้าวก่าย ไม่สามารถบันทึกวิถีชีวิต มีอรรสรสที่สะท้อนสังคมหรืออารมณ์ขันในยุคต่างๆ หลุดรอดมาได้

ผมขอเรียกร้องว่าถึงทุกท่านว่า เราไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลย มิเช่นนั้นแล้วสำนักพุทธฯ ก็จะถือสิทธิ์ทำการเช่นนี้อีกเรื่อยไป ผมขอให้พวกเราร่วมกัน #รณรงค์ไม่ให้ลบหรือแก้ไขภาพสิตางศุ์ส้มหยุด เพราะมันเป็นการก้าวก่าย ริดรอนสิทธิเสรีภาพ และทำลายศิลปะที่สร้างสรรค์ อีกทั้งเป็นการลบอรรถรสที่บันทึกความทรงจำแห่งยุคสมัย

#สังคมไทยควรร่วมกันตักเตือนให้สำนักพุทธฯได้ทบทวนบทบาทตัวเอง และทำเรื่องที่เป็นเรื่องมากกว่านี้ มีพระทุศีล และการทำมาหากินกับวัดอีกมากมาย ทำไมไม่ไปทำ ยกตัวอย่าง สำนักพุทธฯ ควรลงไปจัดการกับ ‘ไอ้ไข่ วัดเจดีย์’ ที่นครศรีธรรมราช ก่อนเลย”

จำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา! เสี่ยเบนซ์ชนรถนักศึกษาป.โท ดับ 2

จากกรณีเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 59 เสี่ยเจนภพ ขับรถเบนซ์ รุ่นซีแอลเค สีดำ ทะเบียน ษง3333 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนท้ายรถเก๋งฟอร์ด เฟียสต้า ทะเบียน ฆย6911 จนเกิดไฟไหม้ ทำให้ นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และน.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย นิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราขวิทยาลัย (มจร.) ถูกไฟคลอกเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

ล่าสุดวันที่ 2 มิ.ย. 63 ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โจทก์นายไพบูลย์ ถาวร นายทิวากร ฮ้อแสงชัย กับพวกรวม 4 คน เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายเจนภพ วีรพร เป็นจำเลยในความผิดฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

จำเลยถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา โจทก์และโจทก์ร่วมที่ 3 และ 4 ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เพิ่มโทษจำคุก ต่อมา ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2562 แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้เพิ่มโทษ ลงโทษจำคุกจำเลยฐานเสพเมทแอมเฟตามีนขับรถ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้เหลือโทษจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา

จำเลยยื่นศาลฎีกา ขอให้ศาลลงโทษสถานเบา และรอการกำหนดโทษ โดยอ้างว่าได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมทั้ง 4 คน เห็นว่า เป็นเรื่องที่จำเลยต้องรับผิดชอบตามกฎหมายในทางแพ่งอยู่แล้ว ส่วนที่จำเลยอ้างว่าจบการศึกษาจากต่างประเทศ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัท มีคุณงามความดีช่วยเหลือผู้อื่น หลังเกิดเหตุบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายทั้งสอง 2 เดือน 3 สัปดาห์ ก็ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะลงโทษสถานเบา หรือรอการลงโทษให้ได้ การจำคุกเหลือ 4 ปี ถือว่าเหมาะสมแก่พฤติการณ์ของรูปคดีแล้ว

ส่วนที่โจทก์ร่วม ขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยสถานหนักและไม่รอการลงโทษ เห็นว่าที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ลงโทษจำเลย ได้ใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษหนักที่สุดและชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลง แก้ไขทั้งบทและโทษที่ลง ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น บาคาร่าออนไลน์