เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและ บาคาร่าเว็บตรง ประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และทนาย ยังคงรอเจ้าหน้าที่ศาลรับแจ้งคำสั่งจากอัยการว่าจะยื่นฟ้องนายชัยวัฒน์ กับพวกรวม 4 คน ในข้อหาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ภายในกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายนี้หรือไม่
ซึ่งหากอัยการยังไม่ยื่นฟ้องในข้อหาดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ศาลจะแจ้งให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ทราบ
เมื่อได้รับแจ้งจากอัยการเพื่อปล่อยตัวพ้นจากอำนาจศาลในการฝากขังคดีนี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นตามขั้นตอนนายชัยวัฒน์และพวก จะยื่นขอคืนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการประกันตัวชั้นฝากขังคนละ 800,000 บาท
ขณะที่ นายชัยวัฒน์ ระบุสั้น ๆ ว่า ยังไม่ทราบคำสั่งคดีของอัยการที่เป็นทางการ จึงไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ ทางคดีได้ในขณะนี้ ส่วนที่ปรากฏตามข่าวว่า คณะทำงานของอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องพวกตนในข้อหาร่วมกันฆ่าและข้อหาอื่นนั้น นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริงจากอัยการ และตามขั้นตอนต้องรอให้อัยการสูงสุดชี้ขาด ดังนั้นต้องรอให้กระบวนการดังกล่าวชัดเจนก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งอย่างไร จะให้ฟ้องทุกข้อหาหรือไม่ แต่ส่วนตัวเท่าที่ทราบตามข่าวก็รู้สึกโล่งขึ้นบ้าง
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับที่มีคำสั่งย้ายตนกลับไปที่ สบอ.9 จังหวัดอุบลราชธานี เป็นการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา ส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องผลคดีหรือไม่ ตนไม่ทราบ แค่กลับไปทำงานตามคำสั่ง
ขณะที่ตลอดทั้งวันนี้ นายชัยวัฒน์ยังต้องรออยู่ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ จนกว่าจะหมดเวลาทำการ ในเวลา 16.30 น. ว่า อัยการจะมีความเห็นอย่างไร เพราะทางอัยการก็ต้องรอความเห็นจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วยเช่นกัน ว่าจะมีความเห็นพ้องหรือเห็นแย้งส่งกลับมาในวันนี้เลยหรือไม่
และตามขั้นตอนก็ต้องรอไปจนกว่า จะหมดเวลาราชการ ในเวลา 16.30 น. หลังจากนั้น นายชัยวัฒน์ กับพวก ก็สามารถรับเงินประกันคืน พร้อมกับเดินทางกลับได้
ปัญหาไฟใต้ยังไม่ดับ เกิดเหตุระเบิดอีกครั้ง เมื่อเวลา 07.25 น. วันที่ 3 ก.พ.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่หัวมุมเกาะกลางของโคนป้ายบอกจุดยูเทิร์น บนถนนสาย 4066 ช่วงบริเวณบ้านบลูกา ม.3 ต.ตะปอเยาะ จึงพร้อมด้วย. เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดนาวิกโยธิน และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส รวมทั้งตำรวจ ทหาร รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบที่บริเวณหัวมุมเกาะกลางของโคนป้ายบอกจุดยูเทิร์น ถูกอนุภาพของระเบิดมีหลุมระเบิดลึก 1 ฟุต กว้าง 3 ฟุต และขอบปูนซิเมนต์ของเกาะกลางที่ทาด้วยสีขาวและสีดำ รวมทั้งโคนเสาของป้ายบอกจุดยูเทิร์น ถูกแรงระเบิดได้รับความเสียหาย เศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนัก 10 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดเฉพาะกิจนาวิกโยธินจำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ นั่งรถกระบะเพื่อลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อถึงจุดที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปฝังไว้ใต้โคนเสาบอกจุดยูเทิร์น จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดัง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะขับรถยนต์ผ่านถึงจุดเกิดเหตุ ประมาณ 20 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ปลอดภัยและรถยนต์ไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งว่าคาดเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี
วัยรุ่น21ปี ขับรถส่งของลาซาด้า หลับในชนคนตาย
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 3 ก.พ.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุบนถนนเทพรัตน ช่องทางด่วนขาเข้าหลักกิโลเมตรที่ 23 ตรงจุดกลับรถสีทีโอเอ จ.สมุทรปราการ ในที่เกิดเหตุมีรถชนกันจำนวนหลายคัน และมีผู้บาดเจ็บติดคาซากรถ จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถประสบอุบัติเหตุทั้งหมด 5 คัน ประกอบด้วย รถบรรทุก 4 ล้อใหญ่ ฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน บพ 1350 นนทบุรี เสียหลักพุ่งชนท้ายอัดก๊อบปี้กับรถกระบะ โตโยต้า สีดำ หมายเลขทะเบียน บต 937 สมุทรปราการ ติดและมุดใต้ท้องรถบัสรับ-ส่งพนักงาน หมายเลขทะเบียน 30-0078 อุทัยธานี ในสภาพของรถกระบะแทบไม่เหลือซากรถ นอกจากนั้นยังมีรถกระบะอีกหนึ่งคัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีกหนึ่งคัน รวมทั้งหมด 5 คันได้รับความเสียหาย ในรถกระบะโตโยต้าสีดำ พบร่างคนขับเสียชีวิตติดอยู่ภายใน ทราบชื่อต่อมาคือ นายจิราวุฒิ ช่วงโชติ อายุ 58 ปี อัดติดคาพวงมาลัยและซากรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูต้องใช้เครื่องตัดถ่างเข้างัดซากรถพบเสียชีวิตคาที่
จากการสอบถาม นายหรรษา ศรเดช อายุ 21 ปี คนขับรถบรรทุก 4 ล้อใหญ่ ให้การว่า ตนเองขับรถมาจากจังหวัดฉะเชิงเทราหลังจากไปส่งสินค้า โดยขับรถตั้งแต่ 20.00 น. ของเมื่อวาน และยังไม่ได้พักผ่อนจนกระทั่งต้องขับรถกลับบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งข้างหน้าเป็นจุดยูเทิร์นและมีรถจอดรออยู่ โดยที่ตนยอมรับว่าเกิดอาการหลับใน ทำให้พุ่งชนท้ายรถด้านหน้าอย่างจัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาหนัก ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย คุมตัวไป สภ.บางเสาธง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป. บาคาร่าเว็บตรง
